Friday, December 23, 2011

GC-K1-2011 บัวส่ง Oct03 รับ Dec23 @CA ไม่ต้องสัมภาษณ์

แจมน้อย
แจมน้อย
User avatar

Joined: Tue Sep 14, 2010 5:48 am
Posts: 20
Post GC-K1-2011 บัวส่ง Oct03 รับ Dec23 @CA ไม่ต้องสัมภาษณ์
GC-K1-2011 บัวส่ง Oct03 รับ Dec23 @CA ไม่ต้องสัมภาษณ์

>>>>>เอกสารขอกรีนการ์ดหรือการปรับสถานะ<<<<<<

เอกสารของภรรยาสาวสวย

1.ฟอร์ม I-485 :Application to Register Permanent Residence or Adjust Status

- Instructions I-485 http://www.uscis.gov/files/form/i-485instr.pdf
- Form I-485 http://www.uscis.gov/files/form/i-485.pdf
- ตัวอย่างการกรอกฟอร์ม I-485 http://www.visajourney.com/examples/INS-Form-I-485.pdf

2.รูปถ่ายสีหน้าตรง 2x2 นิ้ว (จำนวน 2 รูป แนบติดไปกับฟอร์ม I-485) เขากำหนดให้ถ่ายไม่เกิน 30 วัน แต่ ขอแอบกระซิบว่าบัวส่งอันเดียวกับที่ให้สถานฑูตที่ไทยนั่นล่ะ ส่งไป อิอิ

3. ฟอร์ม G-325A Biographic Information ข้อมูลก็ลอกๆของเก่าตอนที่ส่ง noa1 มาซะส่วนใหญ่ เปลี่ยนแค่นามสกุลเราที่กลายเป็นนามสกุลสามีไปแล้ว แล้วก็เพิ่มที่อยุ่ปัจจุบันที่เมกาเข้าไป

- Form G-325A http://www.uscis.gov/files/form/g-325a.pdf

4. สำเนาการฉีดวัคซีน (ประวัติการฉีดวัคซีนจากเมืองไทย =เล่มเหลืองจากเสาวภา และบำรุงราษฎร์ บัวฉีดจากสองที่เลยแต่ก็ยังไม่ครบโดส)
5. สำเนาใบสำคัญการสมรสที่ผ่านการรับรองสำเนาแล้ว
6. สำเนาหน้าวีซ่า K-1 พร้อมตราประทับตอนเข้าอเมริกาด้วย
7. สำเนา I-94 บันทึกการเข้าออกสหรัฐฯ (ด้านหน้า-ด้านหลังอยุ่ในพาสปอร์ตเรานั่นแล )
8. สำเนาใบแจ้งผลการอนุมัติวีซ่าคู่หมั้น (NOA2)
9. สำเนาพาสปอร์ตไทยทุกหน้า ซึ่งบัวมีอยุ่หน้าเดียวเพราะเพิ่งมาเมกาครั้งแรก อิอิ
10. สำเนาใบเกิด+พร้อมแปลและรับรองเอโล้ดดด
11. เขียน check หรือ money order จำนวน $ 1,070 (เป็นค่าธรรมเนียม I-485 =$ 985 และค่า finger prints =$ 85 รวม =$ 1,070 โดยสั่งจ่ายรวมเป็นเช็คใบเดียวไปในคราวเดียวกันเลยค่ะ )

สั่งจ่ายในนาม "U.S.Department of Homeland Security"

หมายเหตุ เอกสารที่กรอกเพิ่มเติมเนื่องจากว่าขอฟรี และใช้หลักฐานอย่างเดียวกับการขอกรีนการ์ดคือ Form I-765 : Application for Employment Authorization (ใบอนุญาติทำงาน/work permit) แนบรูปเพิ่มไปอีก 2 รูปพอค่ะ

- Form I-765 http://www.uscis.gov/files/form/i-765instr.pdf

หมายเหตุสำคัญ :บัวไม่ได้ทรานเฟอร์ผลตรวจสุขภาพอย่าง ที่เพื่อนๆทำกัน เพราะว่าแอบอ่านเจอใน instruction ว่า ถ้ามาวีซ่าคู่หมั้นแล้วผลตรวจยังไม่หมดอายุก็ส่งได้เลย ไม่ต้องใช้ฟอร์ม I-693 และอีกอย่างแอบงกง่ะ ฮ่าา อีกประการที่ทำไม่เหมือนเพื่อนๆ คือบัวไม่ได้ส่งเอกสารความสัมพันธ์อย่าง เช่นรูป บัญชีธนาคาร เพราะว่า อ่านยังไง๊ ยังไงก็ไม่เจอว่าเขาให้ส่ง และอีกอย่าง คือขี้เกียจทำด้วย ฮ่าาา แล้วก็เลยลุ้นมากๆ เลยว่าจะโดนขอเอกสารเพิ่มไหม แต่ถึงตอนนี้ ก็ยังไม่โดนนะ อิอิ

เอกสารของสามีหนุ่มหล่อ

1. Form I-864 Affidavit of Support http://www.uscis.gov/files/form/I-864.pdf
2. สำเนาภาษีย้อนหลัง 1 ปีล่าสุด หรือจะใช้ 3 ปีก็ได้นะคะ เพราะในแบบฟอร์มมีที่ให้กรอก 3 ปี แต่บัวใช้แค่ปีเดียว เพราะเขาไม่บังคับคร้าาา
3. สำเนา W2 ชุดเดียวกับที่ใช้สัมภาษณ์ที่ไทยค่ะ
4. สำเนาพาสปอร์ตของสามีทุกหน้า
5. สำเนาใบเกิดสามี (สามีไม่ได้เป็นอเมริกันซิติเซ่นโดยกำเนิด)
6. สำเนาจดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ที่ระบุชื่อ ระยะเวลาการทำงาน ประเภทของงาน และเงินเดือน(เอกสารสำเนาชุดเดิมตอนขอวีซ่า)
7. สำเนาใบรับรองทางการเงินจากธนาคาร ใส่ไปแค่เดือนเดียวเดือนล่าสุดที่เคยใช้ตอนขอวีซ่าที่เมืองไทย

หมายเหตุ เอกสารของสามีง่ายสุด เพราะบัวใช้สำเนาเดิมตอนขอวีซ่าที่เมืองไทยหมดเลยค่ะ ไม่ได้ไปขออะไรใหม่เลย แม้กระทั่งเงินในธนาคาร เพราะว่าตอนนี้มันน้อยกว่าตอนนั้นแล้ว ฮ่าาาาา

>>>>>พิมพ์ลายนิ้วมือ<<<<<<

ไปพิมพ์ลายนิ้วมือวันที่ 17 ตุลาคม ไปก่อนเวลา ทำมึนๆไป วันนั้นไม่ค่อยมีคน แม่แฟนมีนัดด้วยเหมือนกัน เลยถือโอกาสมั่วๆไป เขาก็ให้ทำด้วยนะ วันนั้นไม่ได้เอาใบแต่งงานไปด้วย ก็ไม่รู้นี่นาาา แต่แฟนไปด้วย เขาก็ให้พาแฟนไปยืนยันตัวตน เจ้าหน้าที่ก็ถามแค่ว่าแต่งงานกันวันที่เท่าไหร่ แล้วเขาก็เซ็นต์แอฟพรูฟให้ สำหรับเพื่อนๆ ติดใบสมรสไปวันพิมพ์ลายนิ้วมือด้วยนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา หลังจากนั้นก็ไปยืนพิมพ์ลายนิ้วมือ ทั้งสิบนิ้วเลย พลิกซ้ายพลิกขวากันอยุ่พักใหญ่ แล้วก็ถ่ายรูปหนึ่งแฉะ ก่อนเขาถ่ายเราก็ถามเขาก่อนว่า ยิ้มได้ไหมคะ เขาบอกยิ้มได้ บัวเลยยิ้มเห็นฟันไปเลย อิอิ สวยยยย รูปในการ์ดเป็นขาวดำนะคะ แต่งหน้าไม่ต้องจัด กรีดอายไลเนอร์ กะืำืีทำทรงผมสวยๆเป็นพอค่ะ เป็นอันเสร็จพิธี กลับบ้านไปรอ

>>>>>จม. ขอเอกสารเพิ่ม<<<<<<

วันที่ 24 ตุลาคม อ่านจดหมายด้วยความตื่นเ้ต้นกลัวจะโดนขอทรานเฟอร์ผลตรวจสุขภาพ แต่ผิดคาด เขาขอ สำเนาใบเกิดฉบับภาษาไทยค่ะ คือว่า...บัวไม่ได้ส่งไปอ่ะ ด้วยความเอ๋อ ก็รีบส่งทันทีในวันรุ่งขึ้นเลย ไม่อยากให้มันล่าช้าไปกว่านี้

>>>>>>เคสทรานเฟอร์<<<<<<<

วันที่ 8 พฤศจิกายน เปิดจม.อีกครั้งด้วยความตื่นเต้น ได้รับ transfer notice เรียบร้อยแร้น อุ่นใจไปกว่าครึ่ง แล้วก็รอลุ้นด้วยใจระทึกว่าจะโดนเรียกสัมภาษณ์ไหมน้าาาาา

>>>>>>Welcom to USA and Work permit<<<<<<<

วันที่ 16 ธันวาคม ที่ร้ากกกก โทรมาบอกข่าวดี ได้รับจม. ได้ความว่า welcome to the united state of america และกรุณารอกรีนการ์ดที่จะส่งมาที่บ้านคุณภายใน 3 อาทิตย์นี้ค่ะ เย้ เย้ เป็นอันว่าไม่โดนเรียกสัมภาษณ์แล้วคร่าาาา แล้วๆๆๆๆ มีจดหมายอีกฉบับแนบมาด้วยกัน เป็นบัตรที่ำได้จากการขอ work permit ค่ะ แล้วรูปที่ปรากฏบนบัตรก็คือรูปเดียวกับตอนที่ไปถ่ายรูปพิมพ์ลายนิ้วมือกรี นการ์ดเลย ยิ้มแฉ่งมาเชียว ^___^

>>>>>GREEN GARD<<<<<

วันที่ 21 ธันวาคม กรีนการ์ดมานอนคอยอยู่ที่บ้านแล้วค่ะ มาเร็วทันใจจริงๆเลย แล้วกลับไปเจอกันนะจ๊ะ

ระยะเวลาการขอ

ส่งเอกสารขอกรีนการ์ด วันที่ 3 ตุลาคม

ได้รับใบ receipt วันที่ 11 ตุลาคม
ได้รับใบนัดพิมพ์ลายนิ้วมือ วันที่ 15 ตุลาคม (ได้วันนัดวันที่ 1 พฤศจิกายน)
พิมพ์ลายนิ้วมือ วันที่ 17 ตุลาคม
ขอเอกสารเพิ่ม วันที่ 24 ตุลาคม (ส่งเอกสารเพิ่มวันที่ 25 ตุลาคม)
เคสทรานเฟอร์ วันที่ 8 พฤศจิกายน
ได้รับจม.ยินดีต้อนรับสู่อเมริกา วันที่ 16 ธันวาคม
ได้กรีนการ์ด วันที่ 21 ธันวาคม


viewtopic.php?p=646397#p646397 ิbombaybaibua, ตรวจสุขภาพบำรุงราษฎร์ K1-2011 บัว May10,11
viewtopic.php?p=652031#p652031 bombaybaibua, K1-2011 บัว Jun28,11 รับ Jun30,11
viewtopic.php?p=664968#p664968 bombaybaibua, แต่งงาน - SSN-K1-2011 บัวใช้ passport หลังแต่งงาน @LA,CA north hollywood LA
viewtopic.php?p=666897#p666897 bombaybaibua, เหตุฉุกเฉินต้องกลับไทยขณะที่ยังไม่ได้กรีนการ์ด by baibua
viewtopic.php?p=664969#p664969 bombaybaibua, GC-K1-2011 บัวส่ง Oct03 รับ Dec23 @CA ไม่ต้องสัมภาษณ์
viewtopic.php?p=666900#p666900 bombaybaibua, สอบข้อเขียน 2012-CA บัวสอบข้อสอบเดิม

Thu Dec 22, 2011 1:06 pm

Tuesday, August 23, 2011

GC-K4-2011 แจง Aug23,11 @LosAngeles,CA แต่งงานกับ US citizen

สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่

Joined: Tue Aug 23, 2011 7:13 am
Posts: 8
Post GC-K4-2011 แจง Aug23,11 @LosAngeles,CA แต่งงานกับ US citizen
GC-K4-2011 แจง Aug23,11 @LosAngeles,CA แต่งงานกับ US citizen

สวัสดี เพื่อนๆ พี่ ทุกคนในนี้ค่ะ ชื่อแจงนะคะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้ที่ก่อตั้งและดูแลเวปไซด์ดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อแจงมาก เพราะตั้งแต่ยื่นเรื่องจนถึงวันสัมภาษณ์ ที่นี่เป็นที่ๆแจงเข้ามาหาข้อมูล และความรู้ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ก่อนอื่นนะคะ นี่คือ Timeline ของแจงเองค่ะ

- March 28, 2011 ยื่นเรื่อง
- April 1, 2011 Immigration ได้รับเรื่อง
- April 5, 2011 Immigration ส่งใบ Receipt มาให้ที่บ้าน
- April 11, 2011 Immigration ส่งใบนัดให้ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ ในวันที่ May 6, 2011
- May 6, 2011 ไปพิมพ์ลายนิ้วมือที่ศูนย์ USCIS Van Nuys เวลา 8:00 am
- June 3, 2011 Immigration ส่งใบเวิร์คเพอร์มิตมาให้
- June 10, 2011 ได้รับเวิร์คเพอร์มิทที่บ้าน (ดีใจมั่กๆ :D )
- July 20, 2011 Immigration ส่งใบนัดสัมภาษณ์มาให้
- July 25, 2011 ได้รับใบนัดสัมภาษณ์ที่บ้าน เป็นวันที่ August 23, 2011 เวลา 10:15 am ที่ Downtown LA

และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง แจงกับสามีไปถึงประมาณ 9:45am แถวยาวเหยียดเชียวค่ะ กว่าจะได้เข้าไปข้างในก็ประมาณเกือบสิบโมงแล้วล่ะค่ะ ก็ตรวจของ เอ็กเซอร์เรย์กระเป๋า อารมณ์เหมือนกำลังจะขึ้นเครื่องบิน :)) ก็เข้าไปยื่นเอกสารแล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกให้นั่งรอเรียกชื่อ คุณสามีก็ดันมาท้องไส้ปั่นป่วนอะไรตอนนี้ อยากเข้าห้องน้ำขึันมา ไอ้เราก็ดูเวลาเป็นระวิง กลัวเค้าจะเรียกชื่อ แต่สุดท้ายสามีก็กลับมาทันเวลา ดีนะที่เค้าไม่เรียกชื่อ ระหว่างที่นั่งรอดูก็คู่อื่นเขาถูกเรียกเข้าไป คนสัมภาษณ์แต่ละคนจะค่อนข้างมีอายุ และดูท่าทางใจดี อีกอย่างเขาทำงานกันเร็วดีนะคะ คู่แล้วคู่เล่า คู่ที่มาทีหลังแจงเข้าไปจนออกมาแล้วก็มี ส่วนใหญ่ยิ้มออกมากันทั้งนั้นค่ะ แต่มีอยู่คู่นึงซึ่งดูแล้วไม่น่าจะผ่าน เดินคอตกออกมา ผู้หญิงก็ร้องไห้ น่าสงสารมากเลย คู่ที่ว่าคอตกออกมานี้ เป็นคู่เอเชีย จำได้ว่าเขามาทีหลังแจง แล้วได้สัมภาษณ์กับหนุ่มไฟแรงคนนึง (เห็นตอนโดนเรียกเข้าไปน่ะนะคะ) เจ้าหน้าที่หนุ่มไฟแรงที่ว่านี้ เป็นฝรั่งไวท์อ่ะค่ะ อายุไม่เกิน 35 แน่นอน หน้าตาเคร่งขรึม แจงกับสามีก็ยิ่งกดดันเข้าไปอีก ขออย่าให้ได้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนนี้เลย แต่สามีแจงพูดอยู่ตลอดว่า คุณจะกลัวอะไร เราน่ะแต่งงานอยู่กินกันจริงๆนะ แต่ถึงยังไงแจงก็ไม่อยากพลาดอ่ะค่ะ ขี้เกียจต้องมายื่นใหม่ คู่ที่เขาแต่งกันจริงๆ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อมันก็มี พอตอนนี้ก็ยังรออยู่ค่ะ จะสองชั่วโมงเข้าไปแล้ว นานมากก คุณสามีก็นะ แจงก็เบรกไม่ทัน เดินไปถามที่หน้าต่าง ว่าทำไมเรามาก่อน ทำไมคนอื่นได้เข้าไปก่อน นี่มันจะ 2 ชั่วโมงแล้วนะ ไม่มีใครเรียกเลย เจ้าหน้าที่เขาก็เลยบอกว่า อ๋อ มันไม่ใช่แบบใครมาก่อน ได้สัมภาษณ์ก่อนนะ คือแต่ละคู่เนี่ย เขากำหนดมาแล้วว่าต้องสัมภาษณ์กับใคร แสดงว่าคนที่สัมภาษณ์คู่แจงเนี่ย มันต้องสัมภาษณ์นานมากเลย ถึงยังไม่ออกมาเรียกเราซะที :-w
และแล้ว (อีกแล้ว)สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดมันก็เป็นจริง เจ้าหน้าที่หนุ่มไฟแรงคนนั้น เดินมาตรงหน้าต่างเรียกเพื่อที่จะเรียกชื่อผู้โชคดีใส่ไมโครโฟน ปรากฎว่า เป็นชื่อแจง!! @-) แจงกับสามีถอนหายใจพร้อมกัน ตอนนั้นอยากจะถามสามีว่า ไหนบอกว่าไม่ต้องกลัวไง คราวนี้เป็นไง แต่เราก็ได้แต่ลุกพร้อมกันเดินเข้าไปในห้อง โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นคนจับประตูไว้ให้
เข้าไปนะคะ จะเป็นทางเดิน ห้องที่ใช้สัมภาษณ์จะเป็นเหมือนห้องทำงานเรียงกัน แต่ละห้อง เวลาเราเดินผ่านจะเห็นทุกคนกำลังตั้งใจกันอย่างมาก บางห้องปิดประตู แต่ส่วนใหญ่ไม่ปิด มันเป็นกระจกกั้นแต่ละห้อง คือถ้าเรานั่งสัมภาษณ์เราก็เห็นหัวห้องข้างๆอ่ะค่ะ แอบอิจฉาเล็กๆ เพราะดูเจ้าหน้าที่ห้องข้างๆดูท่าทางใจดีมาก ถามไปยิ้มไป ดูเขาไม่เครียดกันเลย แต่ละห้องมีเบอร์ติดหน้าห้องของแต่ละคน ห้องหนุ่มคนนี้ เบอร์ 13 เห้ออออ ไม่ชอบเลยเลขนี้
เจ้าหน้าที่แนะนำตัวเอง และบอกเราว่า เขาจะเป็นคนทำหน้าที่สัมภาษณ์เราสองคนในวันนี้ ก่อนอื่นให้เราสองคนยืนขึ้น สาบานว่าจะพูดแต่ความจริง แจงกับแฟนก็ Yes, I do. แล้วเจ้าหน้าที่ก็ขอ Passport, Driver license ของทั้ง2 คน
ถามสามีก่อน
-บอกชื่อ นามสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน วันเดือนปีเกิด
-เกิดที่เมืองอะไร ในแคลิฟอร์เนียใช่มั้ย
-ชื่อพ่อ แม่ ตอนนี้อยู่ที่ไหน
แล้วก็ถามแจงแบบเดียวกันค่ะ แล้วก็คำถามประมาณว่าเคยทำผิดกฎหมายมามั้ย บลาๆ ประมาณ 6-7 ข้อ ตอบ No หมดค่ะ
คราวนี้ถามทั้งสองคนค่ะ ใครตอบก็ได้ (มั้ง)
-เจอกันที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง อธิบายเหตุการณ์ให้ชัดเจน(ถึงตอนนี้ตั้งใจดีๆนะคะ ใครที่ตอบไม่ตรงกันจบเห่ตั้งแต่ต้นค่ะ เพราะไม่ใช่แค่ว่าสถานที่ไหน ยังไง แต่เหตุการณ์ต้องเลียงลำดับเป๊ะๆค่ะ)
-บ้านที่อยู่ปัจจุบัน อยู่กันแค่สองคนใช่มั้ย
-แล้วเจ้าหน้าที่ก็ขอดูเอกสารร่วมกัน
รูปถ่ายเยอะมาก(ตั้งแต่แจงผอมยันอวบ ทรงผมก็เปลี่ยนหลายทรงแล้ว :)) )ปริ๊นใส่กระดาษมาให้ ทั้งหมดประมาณ 35-40 รูป
บิลแก๊ส ชื่อร่วมกัน
บิลค่าทำฟัน จ่ายเป็นเช็คทุกๆเดือน แนบไปพร้อมกับ check copy ที่ปริ๊นท์ออกมาจากเสตทเมนท์
บิลค่าเช่าบ้าน จ่ายเป็นเช็คทุกๆเดือน แนบไปพร้อมกับ check copy ที่ปริ๊นท์ออกมาจากเสตทเมนท์
Costco Membership ร่วมกัน
สเตทเม้นธนาคารร่วมกันย้อนหลังปีนึง
เจ้าหน้าที่บอกว่า โอเค ทุกอย่างดูดี ดึง I-94 ออก พร้อมกับขอตัวไปถ่ายเอกสารเพิ่มเติมก่อน เห็นอย่างงี้แล้วแจงกับสามีก็ดีใจสิคะ คิดว่าได้แล้วแน่ๆ ที่ไหนได้ พอเจ้าหน้าที่กลับมา เค้าบอกว่า โอเค เดี๋ยวให้สามีออกไปข้างนอกก่อน จะไปเข้าห้องน้ำ หรือกินน้ำ ทำอะไรก็ได้ เดี๋ยวขอสัมภาษณ์แจงคนเดียวก่อน เราก็ อ้าว!! นึกว่าเสร็จแล้ว เอาวะ เดี่ยวก็เดี่ยว ของจริงเว้ย กลัวอะไร จากนั้นเค้าก็เดินไปส่งสามี แล้วก็กลับมา พร้อมกับยิงคำถามแรก
-อธิบายเหตุการณ์วันที่เค้าขอคุณแต่งงาน
-สถานที่ตั้งอยู่ที่ไหน ชื่ออะไร เป็นร้านอาหาร หรืออะไร
-วันนั้นเขาและคุณใส่เสื้อสีอะไร ชุดอะไร
-ก่อนที่เค้าจะเริ่มขอคุณ เค้าพูดว่ายังไงก่อนบ้าง
-แหวนของคุณมากับกล่อง หรือ มาแต่แหวน
-เขาล้วงมาจากที่ไหน กระเป๋ากางเกง ข้างไหน(ข้อนี้อยากจะด่ามันค่ะ จำไม่ได้เว้ย ซ้ายหรือขวาไม่รู้)
-พวกคุณอยู่ส่วนไหนของร้าน
-เขานั่งลงกับพื้นหรือยืน ตอนที่เขาขอคุณ
-เขาสวมแหวนหลังจากที่คุณตอบ yes เลยไหม
-คืนนั้นพวกคุณค้างที่ไหน ชื่อโรงแรมอะไร
-มีใครแชร์ห้องกับพวกคุณมั้ย นอนกันแค่สองคนหรอ(สองคนสิยะ :-w )
-จำลักษณะห้องได้มั้ย เบอร์ห้องเบอร์อะไร (เบอร์ห้องแจงพูดเลยค่ะว่า จำไม่ได้)
จากนั้นพ่อหนุ่มไฟแรงคนนี้ ก็บอกว่า โอเค เดี๋ยวฉันเดินออกไปส่งเธอ เดี๋ยวจะสัมภาษณ์สามีเธอต่อ พอเดินออกไป เค้าก็เรียกให้สามีก็เดินเข้ามา เค้าไม่ให้แม้แต่เราสบตากันนะคะ :(( ระหว่างนั่งรอ ก็คิดไปต่างๆนาๆ ทำไมเราต้องได้สัมภาษณ์กับคนนี้น๊า คิดไปคิดมา เค้าคงสงสัยคู่เราหรือเปล่า อาจจะเป็นเพราะ เชื้อชาติของเราสองคนมันดูไม่เข้ากัน ไม่น่าจะมารักกันได้แฟนแจงเกิดที่นี่นะคะ แต่เชื้อสายเค้าเป็นคนเลบานีส มีถิ่นฐานเดิมมาจากกรีกอ่ะค่ะ คือคนชาตินี้นะคะเค้าจะไม่แต่งงานกับชาติอื่นเลยค่ะ คือมีค่ะ แต่น้อยมาก ที่เห็นๆก็แต่งกับฝรั่งอ่ะค่ะ แต่นี่แจงเป็นคนเอเชีย คืออย่าว่าแต่คนไทยเลยค่ะ ประเทศไทยเค้ายังจะไม่รู้จักเล้ยย เห้อออ หรือว่าคู่เราอาจยังเด็กกันทั้งคู่ แฟนก็เพิ่งเทิร์น30 ได้ 3วัน ส่วนแจงก็น้อยกว่าแฟนตั้ง 5-6 ปี ทำไมน๊า หรือว่าเอกสารร่วมกันมันดูเวอร์ไป คิดไปต่างๆนาๆ
ผ่านไปเกือบยี่สิบนาที เห็นสามีออกมา หน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับกล่าวขอบคุณ แล้วเดินออกมาพร้อมกับกระดาษ 1 ใบ มีใจความว่า ให้รออีกสามสิบวัน ถ้าต้องการเอกสารอะไรเพิ่ม จะแจ้งให้ทราบอีกที เราก็เห้ออ ไอ้หล่อมันเดินยิ้มออกมา เราก็นึกว่าเค้าให้ผ่านแล้ว ที่ไหนได้มาถามทีหลังว่าเค้าไม่ได้บอกว่าผ่านไม่ผ่าน แล้วสามีจะยิ้มทำไม สามีบอกว่าก็เจ้าหน้าที่พูดว่า It's pretty much approved. but i just have to put it on review for a while. แล้วก็ให้รออีกประมาณ 30 วัน จะมีจดหมาย approved ส่งให้ที่บ้าน แต่เจ้าหน้าก็บอกเองว่า คิดว่าคงไม่ถึง 30 วัน หลังจากที่ได้จดหมายแล้ว ประมาณอีก 2 อาทิตย์ กรีนการ์ดจะส่งมาที่บ้าน พอแจงกลับมาที่บ้าน เช็คเคส status ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
แต่ถึงยังไงแจงก็ยังไม่สบายใจเลยค่ะ เพื่อนๆพี่ทุกคน มีใครมีประสบการณ์แบบแจงบ้าง รอนานมั้ยคะ
สุดท้ายนี้แจงหวังว่า ประสบการณ์ของแจงจะเป็นประโยชน์ให้กับใครหลายคนได้นะคะ แจงขอให้ทุกคนที่กำลังรอเรื่อง หรือรอสัมภาษณ์ ขอให้โชคดีทุกคนค่ะ Jang

Wed Aug 31, 2011 4:49 amProfile

ผู้ตรวจทาน
ผู้ตรวจทาน

Joined: Mon Nov 14, 2005 10:26 pm
Posts: 11594
Post 
Jang204, ยินดีด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆ ค่ะ ไม่ทราบมาด้วยวีซ่าอะไรคะ ขอให้ได้กรีนการ์ดไวๆ นะคะ

Wed Aug 31, 2011 9:48 amProfile

สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่

Joined: Tue Aug 23, 2011 7:13 am
Posts: 8
Post Re: ประสบการณ์สัมภาษณ์ แจง Los Angeles, CA August 23, 2011
ขอบคุณมากค่ะพี่แนท :-) แจงมาวีซ่า k4 ค่ะ ติดตามมารดา คือมาถึงแต่เด็ก แต่คราวนี้เรื่องมามีปัญหาช่วงที่มาอยู่ที่นี่น่ะค่ะ ก็ทำเรื่องต่อวีซ่าเอาทุกๆปี แต่ปีสุดท้ายที่แจงอายุจะเกิน มันต่อไม่ได้แล้ว เพราะอายุมันจะเกินกำหนดในวีซ่านี้น่ะค่ะ แม่แจงเลยยื่นแอ๊พพลายกรีนการ์ดให้แจง แต่พอแจงไปตรวจโรค แล้วโรงพยาบาลส่งใบตรวจโรคไปให้ศูนย์ Immigraton ไม่ทัน ช้าไปวันเดียว ก่อนวันเกิดแจงวันเดียว พอวันถัดมาวันเกิดแจง แจงอายุุครบ 21 พอดี เคสก็ Rejected ออกมาเลยค่ะ money order ที่ส่งเข้าไปก็ตีกลับออกมา คือเขาไม่รับเรื่องเลยค่ะ น่าเสียดายมั่กๆ :(( แต่ตอนนั้นแจงก็มีแฟนแล้วนะคะ เพิ่งเริ่มคบกัน ก็สามีคนปัจจุบันนี่แหละ แต่ไม่กล้าขอให้เค้าทำให้ แต่เค้าก็เหมือนดูใจเราอ่ะค่ะ แจงยอมอยู่แบบไม่มีอะไรมา 2 ปี สุดท้ายเขาขอแจ้งแต่งงานแบบคาดไม่ถึง เป็นวันที่แจงมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยล่ะค่ะ :X

Wed Aug 31, 2011 4:47 pmProfile

ผู้ตรวจทาน
ผู้ตรวจทาน

Joined: Mon Nov 14, 2005 10:26 pm
Posts: 11594
Post 
Jang204แจงคะ พี่แนทขอบคุณมากที่มาเพิ่มรายละเอียดให้ค่ะ กรณีแจงเนี่ยมา K4 ก็จะเหมือน K3 คือวีซ่าที่ใช้อยู่ 2 ปีก่อนทำเรื่องปรับสถานะค่ะ แต่เรื่องต่อวีซ่าทุกๆ ปี พี่แนทไม่เคยได้ยินเลยค่ะ คือคนมาวีซ่า K3-K4 เนี่ยจะต่อวีซ่าไม่ได้ค่ะ ไม่เป็นไรหละเรื่องผ่านไปหละ อย่างไรก็ดีพี่แนทยินดีด้วยนะคะ ขอให้ได้รับกรีนการ์ดไวๆ นะคะ

Wed Aug 31, 2011 5:07 pmProfile

สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่

Joined: Tue Aug 23, 2011 7:13 am
Posts: 8
Post Re: GC-K4-2011 แจง Aug23,11 @LosAngeles,CA แต่งงานกับ US cit
ขอโทษทีค่ะพี่แนท มันไม่ใช่เป็นการต่อวีซ่าอ่ะค่ะ แจงใช้คำพูดผิดไป เหมือนต่ออายุใบเวิร์คเพอร์มิต (อันนี้แจงคิดเองนะคะ)แจงก็ไม่ทราบเหมือนกันเพราะคุณแม่แจงเค้าจัดการ ประมาณนี้ แจงไม่ทราบว่ายังไงค่ะ แต่จำได้ว่าเวิร์คเพอร์มิตครั้งแรกได้2 ปี ไปทำใบขับขี่ก็ได้อายุตามเวิร์คเพอร์มิต คราวนี้เรื่องคุณแม่ก็อยู่ในระหว่างมีปัญหา แต่คุณแม่ได้ใบขับขี่ 5ปี แต่ใบขับขี่ของแจงจะหมดอายุ ก็เลยต่อเวิร์คเพอร์มิต ได้อีก แต่ครั้งนี้ได้1ปี แจงไม่ทราบว่ายังไง เรื่องไม่กระเตื่้อง แล้วปีถัดมาก็ต่อไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ พี่แนทเคยได้ยินเคสอะไรแบบนี้มั้ยคะ

Wed Aug 31, 2011 6:06 pmProfile

ผู้ตรวจทาน
ผู้ตรวจทาน

Joined: Mon Nov 14, 2005 10:26 pm
Posts: 11594
Post 
Jang204, พี่แนทคิดว่าแม่แจงทำ Remove Greencard มากว่าค่ะ เพราะว่า EAD หรือว่า Workpermit มีอายุ 1 ปีเท่านั้นน่ะค่ะ กรีนการ์ดเมื่อได้ 2 ปีก็ต้องถอดถอนคือ Remove น่ะค่ะ ซึ่งพี่แนทคิดว่าคุณแม่คงกำลังถอดถอนหรือว่า Remove Greencard มากกว่าค่ะ viewforum.php?f=79 แต่เอ...เห็นแจงบอกว่าคุณแม่ยังไม่ได้กรีนการ์ดหรือปล่าวคะ

Wed Aug 31, 2011 6:21 pmProfile

สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่

Joined: Tue Aug 23, 2011 7:13 am
Posts: 8
Post Re: GC-K4-2011 แจง Aug23,11 @LosAngeles,CA แต่งงานกับ US cit
สงสัยใช่ค่ะพี่แนท :D เวิร์คเพอร์มิตที่แจงว่า2ปีนั้น มันเป็นเวลาตามหน้าวีซ่าที่เค้าแสตมป์ในพาสปอร์ตเลยค่ะ แต่คุณแม่กับแจงเองไม่มีความรู้อะไรเลย เพราะถ้าอย่างงั้น เรื่องคงง่ายกว่านี้ ก็ได้แต่ร้องเพลงรอ จนน้องสาวคนเล็กจะเริ่มเข้าmiddle school แล้วเรื่องมันมีปัญหา เพราะตอนเด็กๆเอาไปเรียน เขายังอนุญาตให้เรียนได้อยู่ แล้วคุณแม่ก็จ้างทนายทำเรื่องใหม่ทั้งหมด เพราะสามีคนอเมริกันของคุณแม่ เค้าไม่สบายมากน่ะค่ะ ยื่นเรื่องเข้าไปใหม่ทั้งสามคน เรื่องของแจงถูกตีกลับ แต่แม่กับน้องแจงได้ใบเขียวสิบปีโดยไม่ต้องสัมภาษณ์เลยค่ะ

Wed Aug 31, 2011 7:02 pmProfile

ผู้ตรวจทาน
ผู้ตรวจทาน

Joined: Mon Nov 14, 2005 10:26 pm
Posts: 11594
Post 
Jang204, ที่ว่าที่ให้ 2 ปีในพาสปอร์ตน่ะ มันคือวีซ่า K3 ค่ะ คือเมื่อเข้ามาอเมริกาก็จะใช้ได้ 2 ปี เดินทางเข้าออกอเมริกาได้ค่ะ ส่วนเรื่องที่คุณแม่ได้กรีนการ์ดแล้ว 10 ปีแล้ว (นั้นคือเมื่อคุณแม่แจงแต่งงานครบ 2 ปีในวันที่เขาออกกรีนการ์ดให้ก็จะได้กรีนการ์ด 10 ปีเลยค่ะ) แล้วไม่ทราบว่าที่แจงว่ามีปัญหา ปัญหาน่ะอะไรอีกหรือคะ

Wed Aug 31, 2011 7:12 pmProfile

สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่

Joined: Tue Aug 23, 2011 7:13 am
Posts: 8
Post Re: GC-K4-2011 แจง Aug23,11 @LosAngeles,CA แต่งงานกับ US cit
ยังไงต้องขอบคุณพี่แนทมากๆเลยค่ะ ที่อุตส่าห์เสียเวลามานั่งพิมพ์คอยให้ความรู้ และไขข้อสงสัยให้น้องๆได้ตลอดเวลา คือเรื่องของแจงมันผ่านไปแล้ว แต่ถึงยังไงแจงอยากโพสไว้ เผื่อว่าเคสของใครเป็นแบบแจง เค้าจะได้เข้ามาอ่านและแชร์ประสบการณ์กัน แจงอยากให้เรื่องราวของแจงเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ เหมือนที่แจงเข้ามาอ่านเรื่องของคนอื่นๆแล้วได้ความรู้ไปมากมายเลยค่ะ ขอบคุณจากใจเลยค่ะพี่แนท :X ชักอยากเจอตัวจริงของพี่แนทแล้วสิ พี่แนทอยู่รัฐไหนคะ :D

Wed Aug 31, 2011 7:13 pmProfile

ผู้ตรวจทาน
ผู้ตรวจทาน

Joined: Mon Nov 14, 2005 10:26 pm
Posts: 11594
Post 
Jang204, อยู่รัฐเวอร์จิเนียค่ะ พี่แนทยินดีเสมอค่ะ หากว่ามีเวลาและสามารถให้ความรู้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้ค่ะ

Wed Aug 31, 2011 7:15 pmProfile

สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่

Joined: Tue Aug 23, 2011 7:13 am
Posts: 8
Post Re: GC-K4-2011 แจง Aug23,11 @LosAngeles,CA แต่งงานกับ US cit
พี่แนทไม่อยากมาเที่ยวแคลิฟอร์เนียบ้างหรอคะ มาพักบ้านแจงก็ได้น๊าา :D แจงจะพาเที่ยวให้ทั่วเลยค่ะ

Wed Aug 31, 2011 7:25 pmProfile

ผู้ตรวจทาน
ผู้ตรวจทาน

Joined: Mon Nov 14, 2005 10:26 pm
Posts: 11594
Post 
Jang204, ขอบคุณจ้า พี่แนทไม่ชอบเดินทางเลย แล้วพ่อบ้านก็ไม่ชอบเลยค่ะ เลยกลายเป็นแม่บ้าน 24 ไปแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ที่ชวน

Wed Aug 31, 2011 7:28 pmProfile

สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่

Joined: Tue Aug 23, 2011 7:13 am
Posts: 8
Post Re: GC-K4-2011 แจง Aug23,11 @LosAngeles,CA แต่งงานกับ US cit
รบกวนอีกเรื่องค่ะพี่แนท มีใครต้องรอ30 วัน หลังจากที่สัมภาษณ์แล้วแบบแจงบ้างมั้ยคะ แล้วเค้าได้มั้ยคะ แจงไม่สบายใจเลย

Wed Aug 31, 2011 7:29 pmProfile

ผู้ตรวจทาน
ผู้ตรวจทาน

Joined: Mon Nov 14, 2005 10:26 pm
Posts: 11594
Post 
Jang204, เขาจะบอกให้รอเป็นเรืองปกติค่ะ แต่ก็มีบางเคสที่รอนานมากๆ บางทีเป็นปีๆ ก็มีนะคะ อย่างไรก็ดี แจงก็ติดตามเคสไว้นะคะ อย่าให้เรืองหายไปเลย พี่แนทเองมา K1 สัมภาษณ์ 5 ธันวา ได้รับกรีนการ์ด 12 ธันวาค่ะ

Wed Aug 31, 2011 7:33 pmProfile

สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่

Joined: Tue Aug 23, 2011 7:13 am
Posts: 8
Post Re: GC-K4-2011 แจง Aug23,11 @LosAngeles,CA แต่งงานกับ US cit
เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างงั้น แจงคิดว่าแจงคงต้องร้องเพลงรอต่อไป คิดถึงเมืองไทยจังเลยค่ะ อยากกลับไปเยี่ยมป๊ามาก กรีนการ์ดหนอกรีนการ์ด ทำไมถึงได้ยากได้เย็นขนาดนี้ :-s ไว้คุยกันนะคะพี่แนท เดี๋ยวแจงก็จะอยู่แถวๆนี้แหละ ไม่หายแน่นอนจ้า ถ้ามีอะไรคืบหน้า จะรีบมาอัพเดทอย่างละเอียดทันทีเลยค่ะ

Wed Aug 31, 2011 7:40 pm